10 เทคนิคการเขียน essay ที่ช่วยประหยัดเวลา

เทคนิคการเขียน

หลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินผ่านหูกับคำว่า Essay มากันพอสมควร แต่เราก็ยังเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ ท่านไม่รู้และไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร และมีความสำคัญอย่างไร? อีกทั้ง เจ้า essay ตัวร้ายเหล่านี้ยังถูกใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการสอบหรือสัมภาษณ์งานต่างๆ บ้างก็มีอยู่เช่นกัน บทความนี้จึงขอเป็นตัวแทนพาทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจว่า essay คืออะไร? เค้าโครงร่างเป็นอย่างไร? และบอก “10 เทคนิคการเขียน essay ที่ช่วยประหยัดเวลา” ให้กับทุกๆ ท่านได้ลองนำไปใช้กันครับ

Essay คืออะไร? และเค้าโครงร่างที่ดีต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

Essay คือ เรียงความหรือบทความซึ่งเขียนโดยใช้ภาษาอังกฤษ มีรายละเอียดต่างๆ ที่เราผู้เป็นผู้เขียนสามารถสื่อความหมายออกมาเป็นตัวอักษร โดยโครงสร้างหลักๆ ของ Essay ประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ คือ

1. Introduction หรือบทนำ เป็นส่วนแรกของเรียงความที่จะบอกให้ผู้อ่านทราบเบื้องต้นว่าเรียงความนี้จะ กล่าวถึงเรื่องอะไร มักจะไม่ใส่รายละเอียดมากนัก

2. Body หรือเนื้อความ เป็นส่วนที่รวมเนื้อหา ใจความสำคัญของเรียงความไว้ โดยจะเป็นส่วนที่ยาวที่สุดของเรียงความ ทั้งนี้ Body อาจจะแยกย่อยเป็นหลายย่อหน้าได้เช่นกัน ซึ่ง Body คือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้อ่าน เพื่อให้เข้าใจหรือคล้อยตามกับเรียงความของเรามากขึ้น

3. Conclusion หรือบทสรุป เป็นการทบทวนและย้ำให้ผู้อ่านทราบว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรให้ผู้อ่าน ทราบ โดยเนื้อหาเน้นรวบรวมใจความสำคัญจาก Introduction และ Body

10 เทคนิคการเขียน essay ที่ประหยัดเวลาและเข้าประเด็นที่ต้องการแบบสุดๆ

1. การเชียนควรวางโครงเรื่องที่ต้องการไว้ในใจ

การวางเนื้อเรื่องของ essay ที่เราจะเขียนคร่าวๆ ไว้จะช่วยให้เราสามารถกำหนดแนวทางและเนื้อหาของข้อมูลที่ต้องการเขียน จากนั้นหาข้อมูลและอ่านแบบเร็วๆ แล้วนำมาจัดเรียงโครงเรื่องในใจ วิธีนี้จะช่วยให้เราเห็นแกนหลักของเรื่อง รู้ว่าจะเขียนอะไร ลำดับเนื้อหาของสิ่งที่จะเขียนได้ในเวลาที่เร็วขึ้นครับ

2. แต่ละย่อหน้าและประโยคต้องเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

นอกจากหัวข้อหลักของเรื่องแล้ว ส่วนปิดท้าย จะต้องมีความเกี่ยวเนื่องกันแล้ว เนื้อหาทั้งหมดของ essay ในแต่ละบรรทัด จะต้องมีส่วนเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ประโยคแรกของแต่ละ paragraph ควรอ้างอิง paragraph สุดท้ายของส่วนก่อนนี้เสมอๆ

3.เขียน essay เพื่อตอบให้ตรงคำถาม

การเขียน Essay เยอะอาจจะดี แต่สิ่งที่ดีกว่า คือ เขียนแบบให้ตรงคำถาม เพราะว่าถ้าเราตอบไม่ตรงคำถามนั้น เราก็ไม่สามารถที่จะชนะใจกรรมการและได้รับทุนการศึกษานะ

4. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Basic Grammar

ระวังแกรมม่าและคำผิดให้ดี เพราะต่อให้เนื้อหา Essay เลิศเลอแค่ไหน แต่ถ้ามีจุดตำหนิเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ให้อาจารย์ (ซึ่งเป็นคนอ่านและให้คะแนน) รู้สึกกวนใจละก็ อาจถูกหักคะแนนไปอย่างน่าเสียดายครับ

5. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ Passive voice

การใช้ passive voice หรือประโยคถูกกระทำในงานเขียน อาจทำให้คนอ่านรู้สึกสับสนได้ (passive voice คือคำนามที่ถูกกระทำโดยคำกริยา

6. ระมัดระวังเรื่องการใช้ภาษา

อย่างที่ทราบกันว่า คนเรามักเขียนอะไรๆ คล้ายๆ กับภาษาที่พูด ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้คำไม่เหมาะสมหรือคำหยาบ ซึ่งหากใช้บ่อยๆ ก็อาจทำให้งานเขียนของเราดูไม่เป็นมืออาชีพเช่นกัน

7. หลีกเลี่ยง Adverbs (คำวิเศษณ์)

คำวิเศษณ์ หรือคำที่ใช้ขยายคำกริยาต่างๆ อาจจะมีประโยชน์ในงานเขียนบางชนิด แต่สำหรับ essay คำวิเศษณ์ หากใช้มากเกินไป อาจารย์ส่วนใหญ่มักไม่ปลื้ม เพราะมันดูเป็นภาษาพูด ดูแล้วไม่เป็นทางการนั้นเอง

8. พยายาม balance ความยาว-สั้น ของประโยคแต่ละส่วนให้ดี

บางครั้งที่เราไม่รู้จะเชื่อมประโยคแต่ละประโยคเข้าด้วยกันยังไง เราก็อาจจะเขียนเป็นอะไรที่สั้นๆ ไว้ก่อน แล้วค่อยมาหาทางเชื่อมกันทีหลัง แต่ไม่ว่าประโยคที่เราเขียนจะสั้นหรือยาวเกินไป เพื่อให้อ่านสบายและเข้าถึงได้ง่าย

7. ให้ความสำคัญกับบทสรุป

บทสรุป คือ โอกาสสุดท้ายที่เราจะโน้มน้าวให้กรรมการเชื่อว่าเราเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการได้รับทุนการศึกษาหรือสัมภาษณ์งาน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสรุป Essay ไม่ให้สั้นจนเกินไป และควรไม่ใช้คำวิชาการที่มากเกินไป มีการเขียนบทสรุปของ Essay ที่ดี การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมกับประโยคและเข้ากับสไตล์การเขียนของเรา

10. การอ่านทวน

การอ่านทวน เป็นเทคนิคที่ดีที่สุดในการตรวจหาความผิดพลาด จะทำให้คุณสามารถตรวจจับคำที่สะกดผิดที่เราอาจมองไม่เห็นหรือหลงหูหลงตา แต่เมื่ออ่านออกเสียงแล้วเราจะพบคำหรือประโยคที่มันแปร่งๆ ฟังดูไม่โอเคเหล่านั้นง่ายขึ้น นอกจากนี้ การอ่านออกเสียงดังๆ ยังช่วยให้การเขียนของเราออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ “10 เทคนิคการเขียน essay ที่ช่วยประหยัดเวลา” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ เราหวังว่าจะเป็นแนวทางให้กับผู้ที่กำลังมองหาเทคนิคการเขียน Essay ได้ลองนำไปใช้กันนะครับ

Comments are closed.