ธุรกิจห้องอัดเสียง

ธุรกิจห้องอัดเสียง

ในปัจจุบันนี้ การที่นักร้องอยากจะแสดงความสามารถ นั้นเป็นเรื่องที่ง่าย มากๆ เพียงแค่ ร้องและอัดเสียง และลงไปในยูทูป เพียงเท่านี้ก็สามารถโชว์ความสามามรถได้ เพราะปัจจุบันนี้ มีนักร้องมากมายที่แจ้งเกิดจาก ยูทูปมากมาย ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่ต้องพึ่ง สังกัดให้อออกเทปให้ หรือต้องไปประกวดเสียก่อน บอกได้เลยว่าสมัยดีกว่าเยอะ และธุรกิจห้องอัดเสียงนั้น ก็ค่อนข้างเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ

ซึ่งถ้าอยากทำห้องอัดเสียงให้ได้มาดมาตรฐาน แกนหลักเลย ห้องอัดเสียง ในความคิดผม ซาวการ์ดคุณภาพดี + มิกเซอร์ไม่ต้องหรู + ไมค์ ที่คุณภาพ + ลำโพง มอนิเตอร์ที่พอไหว แค่นี้ห้องผม ยึดหลักแค่นี้ อุปกรณ์อื่นๆ แค่ยิบย่อย งบไม่เยอะ อัด Plugin ได้อยู่ ซาวสู้ฮาร์ดแวร์ไม่ได้ แต่หากใช้เป็น ใช้ดีๆ ก็จะไม่เปนรองมากมาย ที่สำคัญอันดับแรกเลยคือห้องครับ เพราะต่อให้ซื้อมอนิเตอร์คู่ละล้านมาแต่ไม่มีห้องที่ดีพอที่จะนั่งฟัง เสียงที่ออกมามันก็ผิดเพี้ยนได้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่ ส่วนเรื่องพวกอุปกรณ์ signal processing ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของฝีมือคนทำมากกว่า ต่อจะมี compressor tubetech ที่เป็น hardware อันละแสน แต่ถ้าคนทำมันปรับไม่เป็นเสียงที่ออกมามันก็อัดอั้น ยังไงก็สู้คนที่ปรับเป็นที่ใช้ compressor โง่ๆที่ติดมากับโปรแกรม DAW ไม่ได้อยู่ดี ถ้าทำเองที่บ้านเน้นให้เงียบจริงๆเพื่อให้เสียงที่ออกมาดีมีคุณภาพ ไม่มีการถ่ายทำ แนะนำผ้าห่ม, ผ้าหม่าน กันห้องเอาให้เงียบที่สุดเลย รับรองไม่ด้อยไปกว่าห้องอัดแน่ๆครับ ถ้าจะทำที่บ้านเป็นห้องอัดจริง ปูพรมครับ 2000+ หาแผ่นซับเสียงตามกำแพง ราคาไม่แพงครับ ห้อง 3*5 เมตร ก็ตกประมาณ 5000+ ถ้าอยากสมจริงแนะนำให้ไปถ่ายทำที่ Studio เลยครับ เราต้องทำเพลงเสร็จก่อน แล้วไปร้องในStudio ชม.ละ 350 บาท แล้วก็ถ่ายทำ ประมาณนี้ครับ

ส่วนมาก ราคาห้องอัดมีตั้งแต่ 300 – 1500 บาทต่อชั่วโมง ราคานี้รวม อัด เสียงร้อง และ อัดเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ครับ แต่ห้องอัดส่วนมาก จะชาร์ต ค่า มิกซ์เพลงต่างหาก แล้วแต่ที่ด้วย มีตั้งแต่ พันหนึ่ง ไปจนถึง เป็นหมื่น บาท บางที่ก็รวมค่า มิกซ์ไว้ในค่าเช่าห้องอัดแล้วไม่ต้องจ่ายต่างหาก แต่คุณภาพงานก็ตามสภาพ ถ้าอยากได้คุณภาพเสียงดีๆ ต้องลงทุนครับ มีอีกอย่างหนึ่งครับ ส่วนมากจะจองตัวกันเป็นคิวๆ คิวล่ะ หก ถึง แปดชั่วโมง อย่าลืมน่ะครับ ไม่ใช่ว่า ไปถึงภายในหนึ่งชั่วโมง ร้องๆๆๆ จบชั่วโมงออกมาสิบเพลง ต้องเผื่อเวลา อะไรหลายๆ อย่างน่ะครับ เช่น step up equipment, ร้องเพี้ยน, ร้องผิดต้องแก้ มันมีอะไร หลายๆ อย่างที่ต้องเผื่อเวลา หลังจากร้องเสร็จแล้ว ต้องให้ Sound Engineer ทำการตัดต่อ แล้ว mix down ออกมาเป็น 2 traks master ถึงจะ burn ออกมาเป็น CD ได้ ใช้เวลาครับ ใช้เวลา

Article Categories:
ศิลปะ

Comments are closed.