ทำความรู้จักกับเครื่องประดับแต่ละประเภท

เครื่องประดับแต่ละประเภท

สิ่งของที่มีค่าและน่าสนใจสิ่งแรกๆ ที่หลายๆ ท่านจะนึกถึงกันนั้น มีอะไรกันบ้างครับที่มีทั้งความสวยงามและมีมูลค่า ซึ่งถ้าจะให้ยกตัวอย่างแล้วก็คงจะหนีไม่พ้น “เครื่องประดับ” นั้นเองครับ เพราะเครื่องประดับนั้นตอบโจทย์ทุกๆ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น แล้วท่านทราบกันหรือไม่ครับว่า เครื่องประดับมีที่ไปที่มาอย่างไร เครื่องประดับมีกี่ประเภท บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปค้นหาคำตอบกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!

ประวัติความเป็นมาของเครื่องประดับ

เครื่องประดับมีมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนั้น มีต้นกำเนิดและพัฒนาการที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงรัตนโกสินทร์ และได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมา มิใช่เพียงเพื่อใช้ตกแต่งร่างกาย หรือเพื่อแสดงทักษะทางฝีมืออันประณีตเท่านั้น แต่ใช้ในการแสดงออกทางด้านจิตใจ ความเชื่อ และแสดงสถานะทางสังคม  ดังนั้นเครื่องประดับของไทยจึงมีบทบาทสำคัญในหลายด้านได้แก่

ประเภทของเครื่องประดับที่น่าสนใจ

เครื่องประดับอาจแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้

●เครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ เป็นเครื่องประดับที่ผู้สวมใส่ต้องการใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตน รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ และความพึงพอใจให้แก่ตนเอง

●เครื่องประดับเพื่อการสื่อสาร เป็นเครื่องประดับที่ผู้สวมใส่ต้องการจะสื่อสารให้ผู้อื่นรู้ว่า ตนเองมีความสนใจในเรื่องใด หรือมีบุคลิกภาพอย่างไร เช่น ถ้าใส่เครื่องประดับที่มีรูปลักษณ์ธรรมดาๆ ไม่โดดเด่น ก็เป็นการบอกนัยต่อผู้อื่นว่า เป็นผู้ที่มิได้มีความต้องการที่จะเป็นจุดสนใจ ของสังคม

●เครื่องประดับที่แสดงออกถึงเกียรติยศของผู้สวมใส่ เป็นเครื่องประดับที่เสริมบารมีให้แก่ผู้สวมใส่ แสดงสถานภาพว่า เป็นผู้มีเกียรติยศ เป็นที่ยอมรับกันในหมู่คนหรือประชาคมนั้น

●เครื่องประดับทางศาสนา  เป็นเครื่องประดับที่แสดงออกถึงความเชื่อในจิตใจ ซึ่งมนุษย์ใช้ยึดเหนี่ยวยามเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต ทั้งนี้ เครื่องประดับทางศาสนามีความสัมพันธ์กับความเชื่อความศรัทธาในแต่ละชนชาติ เช่น จี้ไม้กางเขน เป็นการแสดงออกให้สังคมได้รับรู้ถึงความศรัทธาของผู้สวมใส่ต่อศาสนาคริสต์ หรือสร้อยคอที่แขวนพระเครื่อง ก็บ่งบอกได้ว่า ผู้สวมนั้นนับถือพระพุทธศาสนา

3 ความสำคัญของเครื่องประดับ

●เพื่อตกแต่งร่างกายให้มีความสวยงาม  เช่น การใช้สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไลแขน กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า แหวน ต่างหู เข็มขัด เข็มกลัด ปิ่นปักผม เครื่องประดับเหล่านี้มีการออกแบบ ตลอดจนการใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย  บางอย่างก็เลิกใช้ไปแล้ว เช่น  “จับปิ้ง” ที่ทำด้วยเงิน ทอง หรือนาก และเข็มขัดทอง เข็มขัดนาก ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน

●เพื่อแสดงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้สวมใส่  หากใช้เครื่องประดับที่มีราคาแพง เช่น ทำจากวัสดุที่มี ค่าและราคาแพงมาก ก็แสดงว่าผู้สวมใส่มีฐานะดี แต่ถ้าทำจากวัสดุที่มีราคาไม่แพงนัก หรือไม่ใช้เครื่องประดับใดๆ ก็แสดงว่า บุคคลนั้นอาจมีฐานะยากจน

●เพื่อแสดงออกถึงความเชื่อในศาสนา และสิ่งเคารพบูชา เช่นพุทธศาสนิกชน ที่นิยมสวมใส่พระเครื่องไว้ที่คอ รวมทั้งเครื่องรางของขลังต่างๆ เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ นอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเชื่อว่าช่วยคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้ด้วย

วิธีการดูแลเครื่องประดับเงิน

●ล้างสร้อยเงินด้วยยาสีฟัน แค่นำยาสีฟันมาบีบบนผ้าสะอาดที่เตรียมไว้ แล้วเช็ดสร้อยเงินจนทั่ว ทิ้งไว้ประมานครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอ จากนั้นเช็ดยาสีฟันออกให้หมด จากนั้นนำสร้อยเงินไปล้างด้วยน้ำอุ่นอีกรอบ แค่นี้สร้อยทีเคยหมองก็กลับมาวิ้งเหมือนเดิมแล้วล่ะ

●การทำความสะอาดสร้อยเงินด้วยสบู่ แค่นำสบู่มาละลายน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาตั้งไฟให้เดือด จากนั้น ทิ้งไว้จนอุณหภูมิของน้ำลดลง ก็นำเครื่องประดับเงินลงไปแช่ได้เลยค่ะ ซัก 5 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่าและเช็ดทำความสะอาดอีกรอบ ก็กลับมาสวยเป๊ะได้เหมือนเดิม

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “เครื่องประดับแต่ละประเภท” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในบทความข้างตน หวังว่าจะชอบกันนะครับ

Comments are closed.